Hifu vs Thread Lift อะไรเห็นผลมากกว่ากัน?
HIFU กับ ร้อยไหม (Thread lift) ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมยอดฮิตที่สาว ๆ นิยมทํากัน เรามาดูกันว่า…ระหว่าง
การทํา HIFU กับการร้อยไหม ต่างกันยังไง ?
Hifu คืออะไร ?
HIFU ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการยกกระชับ ด้วยการนําคลื่น อัลตร้าซาวด์ความถี่สูง ปล่อยลงใต้ผิว ที่สามารถลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึง หน้า ช่วยลดริ้วรอย ลดเหนียง และยกกระชับใบหน้า เต่งตึง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าการทํา ไฮฟู (HIFU) ถือเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุดในการยกกระชับผิว ทั้งบริเวณใบหน้า เหนียง คอ รวมไปถึงต้นแขน และต้นขา สามารถเห็นผลหลังทําทันทีตั้งแต่ครั้งแรก และเหมาะอย่างยิ่งสําหรับสาว ๆ ที่กลัวเข็มหรือกลัวการผ่าตัด
สําหรับบริเวณที่นิยมฉีด Hifu จะมีดังนี้
- บริเวณ “ คิ้ว ”
- บริเวณ “ ร่องแก้ม ร่องน้ําหมาก ”
- บริเวณ “ รอยย่นที่คอ ”
- บริเวณ “ แก้ม ”
- บริเวณ “ กรอบหน้า ”
- บริเวณ “ เหนียงใต้คาง ”
ร้อยไหม (Thread Lift) คืออะไร ?
การร้อยไหม คือ วิธีการยกกระชับผิวโดยใช้ไหมละลาย หรืออาจจะพอคุ้นหูกันบ้าง ว่าไหม PDO ทําจากโพลี ไดออกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ มักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และได้รับการ รับรองความปลอดภัยจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไหมตัวนี้จะค่อย ๆละลายหายไปเอง ซึ่ง ปัจจุบันมีการพัฒนาไหมละลาย แต่ทําในหลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน รวมถึงช่วยให้ระยะเวลาอยู่ ได้นานขึ้น เช่น
ไหม pdo เส้นเรียบ หรือในบางคนเรียกว่า ไหมคอลลาเจน จะเป็นไหมเส้นเล็ก โดยหมอจะร้อยในชั้นคอลลา เจน เพื่อเน้นให้ผิวกระชับ แน่นมากกว่าการหย่อนคล้อย
ไหมก้างปลา หรือบางคนเรียกว่าไหมเงี่ยง คือไหมชนิดเดียวกัน พัฒนามาจากไหม พีดีโอหรือคอลลาเจนเส้น เรียบ ให้มีเงี่ยงเกาะผิวได้มากขึ้นรวมถึงเส้นไหมที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ยกผิวหย่อนคล้อยและกระชับผิวได้มากขึ้น อยู่นาน ขึ้น โดยไหมเงี่ยงนี้จะอยู่นานประมาณ 1 ปี คุณหมอจะร้อยลึกกว่าไหมคอลลาเจน โดยร้อยลงชั้นกล้ามเนื้อ
ไหมหล่อแบบ PCL (ไหมปากฉลาม) คือไหมที่มีการสลักไหม ให้มีการยึดเกาะ 2 ทิศทางทําให้ยกกระชับผิว ได้มากขึ้นมากกว่า ความแข็งแรงทนทานของไหมมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเยอะมาก หรือไม่ อยากร้อยไหมจํานวนเยอะ ตัวเข็มของไหมตัวนี้ ออกแบบมาในแบบเข็มขู่ซึ่งลดความเจ็บและการบวมช้ําได้มากหลัง ทํา รวมถึงอยู่ได้นานกว่าไหมทั่วไป
สําหรับการร้อยไหม…นิยมร้อยบริเวณใดบ้าง
- บริเวณ “ คิ้วตก หางคิ้วซุ้ม ”
- บริเวณ “ ริ้วรอบรอบดวงตา หรือถุงใต้ตา ”
- บริเวณ “ จมูก ”
- บริเวณ “ ริมฝีปากล่างห้อย ”
- บริเวณ “ แก้ไขร่องแก้มลึก ”
- บริเวณ “ คาง ”
การทํา Hifu และการ ร้อยไหม (Thread lift) เหมาะกับใครบ้าง ?
จะเห็นว่าการทํา Hifu และการ ร้อยไหม (Thread lift) มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป
สําหรับการทํา Hifu จะเน้นในเรื่องของการยกกระชับใบหน้า ให้เต่งตึง ปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟ เป็นวิธีการยก กระชับ ที่จะเจ็บน้อยกว่าและไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปทํางานต่อได้ทันที เหมาะสําหรับผู้ที่ไม่มีปัญหา ผิวหน้ามากนัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคือสาวๆที่อยู่ในช่วงวัย 25-45 ปี
ส่วนการร้อยไหม (Thread lift) นั้นจะเหมาะสําหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากกว่า หรือเริ่มเห็นริ้วรอยได้ ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวัยกลางคน 35-60 ปี
แต่หากเราวิเคราะห์ ข้อดี ข้อเสียแบบ สรุปคือ
HIFU เน้นในเรื่องของการยกกระชับ ที่ไม่ใช้เข็ม เหมาะมากสําหรับสาวๆ ที่กลัวเข็ม และเมื่อทําแล้ว ไม่มีแผล ไม่ต้อง มีพักฟื้นใด ๆ แต่อยู่ได้ไม่นาน ส่วนร้อยไหม เป็นกระบวนการลดความความหย่อนคล้อยของใบหน้า ให้หน้าดูเต่งตึง และอยู่นานกว่า ยกกระชับมากกว่าแต่อาจจะมีบวมช้ําได้บ้าง หรือมีรอยเขียวช้ํา บวม อาจจะต้องรอเวลาการเซตตัว นานกว่าหน่อย
ข้อสรุป เลือกแบบไหนดีกว่ากัน ต้องบอกว่าไม่มีแบบไหนดีกว่ากัน แต่แบบไหนที่เหมาะกับเรามากกว่ากัน มากกว่า ซึ่งการพิจารณานั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละบุคคล ทั้งอายุ วัย การดูแลตัวเอง ความต้องการ ต้องพิจารณา ประกอบกัน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทําทุกครั้ง เพื่อรับทราบปัญหาและการแก้ปัญหา รวมถึงผลกระทบที่อาจจะ เกิดขึ้นได้ ข้อดี ข้อเสีย เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ใครที่อยากจะทําสวย ด้วยการยกกระชับปรับรูปหน้าที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเต่งตึง เด็กเด้งอีกครั้ง สามารถเข้ามา ที่ Amitalia Clinic ได้เลยเรามีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ ที่จะคอยให้คําแนะนําและปรึกษาอย่างละเอียด