รักษาใต้ตาคล้ำ ควรใช้ Filler หรือ Filorga Nctf ดีกว่า??

รักษาใต้ตาคล้ำ ควรใช้ Filler หรือ Filorga Nctf ดีกว่า??

หลายๆคนเริ่มมีคำถามว่าจะแก้ใต้ตาดำ หมองคล้ำสามารถทำยังไงได้บ้าง? ฉีดอะไรดี ฉีดอะไรเหมาะ วันนี้ Amitalia
clinic มีคำตอบ!

มาเริ่มที่ความแตกต่างระหว่าง Filorga Nctf กับ Filler กันเลย…

Filorga คืออะไร?

มารู้จัก Filorga กันบ้าง ตัวนี้ก็เป็นการฉีด Hyaluronic acid หรือ HA เหมือนกันแต่จะเป็นแบบเหลว และมีส่วนผสม
ของวิตามินอื่นๆ ที่ไปช่วยบำรุงในส่วนต่างๆ มีคุณสมบัติฟื้นฟูบำรุงมากกว่าเติมเต็ม แต่ถ้าฉีดเยอะพอก็เติมเต็ม ได้
เช่นกัน แต่ด้วยความเป็นของเหลวก็จะอยู่ได้สั้นกว่า Filler

Filler คืออะไร?

ทุกคนน่าจะคุ้นหูกันบ้างแล้ว สำหรับตัว Filler เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ที่นิยมฉีดกันทั่วไป ใช้ฉีดลด
ริ้วรอย ปรับรูปหน้า ซึ่งมีแบบชนิดนิ่มกับ แบบชนิดแข็ง มีอีกหลายยี่ห้อมาก ของแต่ละประเทศราคาก็จะแตกต่างกัน
ไป ส่วนอีกตัวจะเป็นการฉีดไขมัน ตัวนี้จะได้ในส่วนของการบำรุงมาด้วย ความเสี่ยงน้อย เพราะเป็นไขมันตัวเอง แต่
ระยะเวลาก็จะอยู่ได้สั้นกว่าฟิลเลอร์มาก เพราะไขมัน มันมีสิทธิ์สลายได้ไวกว่าเยอะมาก แค่เหงื่อออกก็สลายแล้ว ก็
เหมือนไขมันในส่วนอื่นๆ ของร่างกายถ้าออกกำลังกายไขมันก็มีสิทธิ์สลายเหมือนกันค่ะ

  • ตัวฟิลเลอร์จะเหมาะกันฉีดเติมเต็มเฉพาะจุด ลดริ้วรอยโดยตรง แต่จริงๆ ก็ฉีดได้ทั้งหน้า ราคาต่อ CC สูงกว่า แต่อยู่
    ได้นานกว่า 8 เดือน – 1 ปี
  • ตัวไขมันจะเหมาะกับฉีดปรับรูปหน้า ฉีดให้หน้าดูเต็มดูเด็กลง แต่จะอยู่ได้ระยะสั้นว่าฟิลเลอร์ แล้วแต่การดูแลด้วยค่ะ

(ท้้ง สองจุดประสงค์คล้ายกัน แต่ต่างกันทั้งผลลัพธ์การสลาย โดยฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ดีกว่า)

และถ้าฉีดเพื่อแก้ใต้ตาดำคล้ำ ตาโบ๋ลึก ควรใช้อะไรดีกว่า?

Filler เหมาะกับเติมเต็มผิว ถ้าใครใต้ตาลึก แนะนำเป็นการฉีด Filler ผลที่ได้ก็คือช่วยลดใต้ตาคล้ำได้เหมือนกัน แต่
ไม่ได้บำรุงผิวอะไรมาก แต่ตัว HA มีคุณสมบัติทำให้ผิวชุมชื่นอยู่แล้ว พอบำรุงบ้างนิดหน่อย แต่อย่างไรก็ดี Filler
เหมาะกับเติมเต็มมากกว่า

แล้วถ้าใต้ตาคล้ำอย่างเดียวตาไม่ลึก ก็ควรใช้ Filorga เพราะเน้นบำรุงมากกว่า แถมฉีดได้ทั่วหน้า ทำให้ผิวฟู เด้ง
นอกจาก HA แล้วเค้ายังมีวิตามิน 14 ชนิด เช่น วิตามินเอ บี ซี และ อี ที่มีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างการทางาน
ของเซลล์ กรดอะมิโน 24 ชนิด ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนที่จะช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน และอิลาสติน
เพิ่มขึ้น สารแอนติออกซิแดนท์ 2 ชนิด ที่จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ สำหรับใครเน้นใต้ตาดำแต่ไม่ลึก แนะนำให้ ฉีด
Filorga

จากบทความข้างต้น หากคุณลูกค้าท่านไหนไม่ใจว่าใต้ตาลึกแค่ไหนถึงฉีดได้ หรืออยากให้คุณหมอช่วยประเมิณ เชิญ
ที่ Amitalia clinic ได้เลยค่ะ เราพร้อมดูแลคุณ และแน่นอนว่า ไม่ว่าจะ Filler หรือ Filorga ที่คลีนิกของเราใช้ของแท้
ได้รับรองจาก อย.

ติดต่อเรา

รักษาสิวด้วย Made Collagen ที่ Amitalia clinic

รักษาสิวด้วย Made Collagen ที่ Amitalia clinic

มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) คืออะไร?

Made Collagen

มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) เป็นชื่อทางการค้าของเมโส หน้าใส จากประเทศอิตาลี เป็นสารสกัด
จากธรรมชาติ ซึ่งสามารถสลายได้ 100% ไม่เป็นอันตราย

มาเด้ คอลลาเจนนี้สามารถช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวได้หลากหลาย ทั้ง ฝ้า สิว จุดด่างดำ ผิวอักเสบ เป็นผื่น
ตลอดจนช่วยเติมความยืดหยุ่น เต่งตึงให้กับผิวหนัง ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน และ ช่วยในเรื่องของระบบ
ไหลเวียนเลือด ให้ใบหน้าของเราขาว กระจ่างใส ตลอดจน ช่วยกระตุ้นการขับสารพิษที่ตกค้างในผิวออกทาง
น้ำเหลือง และกระจายสารอาหารภายในร่างกาย

มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) เหมาะกับใคร?

มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) เหมาะกับที่มีปัญหาผิว ดังต่อไปนี้

1. ผู้ที่มีสิว : ปัญหาสิวเกิดจากหลายสาเหตุทั้ง ฮอร์โมนและมลภาวะ สิ่งสกปรกต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในสิว การฉีดมา
เด้ คอลลาเจน จะช่วยปรับฮอร์โมนและขับสารพิษ ทำให้หน้าใส หมดปัญหาเรื่องสิว
2. ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย : มาเด้ คอลลาเจน จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างให้เซลล์ผิวแข็งแรง ทนต่ออาการแพ้ได้ดีขึ้น
3. ผู้ที่มีผิวอ่อนล้า : มาเด้ คอลลาเจน จะช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายในผิว ที่มาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี
สารเคมี หรือ มลภาวะต่างๆ ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวัน การทำมาเด้ ก็เหมือนกับการให้อาหารกับผิว ที่ช่วย
กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ให้ผิวสว่างใส แข็งแรง
4. ผู้ที่มีฝ้า : มาเด้ คอลลาเจน มีสรรพคุณช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้น จึงช่วย
ปรับสมดุลของฮอร์โมน ทำให้ฝ้าฮอร์โมนน้อยลง

มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) ใช้บริเวณไหน?

มาเด้ คอลลาเจน เน้นวิธีการฉีด 16 จุดทั่วหน้า เพื่อประสิทธิภาพในการกระจายตัวยา นอกจากนี้ ยังเป็นเทคนิคที่ทำ
ให้หน้าบวมช้ำน้อยลง ฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึก

มาเด้ คอลลาเจน

ทำไมต้องทำ มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) ที่ Amitalia Clinic

ที่ Amitalia clinic เรามีคุณหมอที่เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำ Made Collagen อีกทั้งตัวยาที่ใข้ได้รับการ
รับรองจาก อย. ซึ่งมั่นใจได้ว่ามาที่ Amitalia ปลอดภัยและได้คุณภาพอย่างแน่นอน

ก่อนและหลังรับบริการ มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen)

ก่อนทำ ควรเตรียมพร้อมดังต่อไปนี้

1. งดการรับประทานยากลุ่มแอสไพริน และวิตามิน 1 สัปดาห์
2. เตรียมสภาพร่างกาย การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

และหลังการทำ มาเด้ คอลลาเจน ผู้ที่รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้

1. ไม่ควรนวด ไม่ควรเช็ดถูหรือเกา บริเวณท่ฉีด
2. สามารถล้างหน้า และแต่งหน้าได้ตามปกติ
3. งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
4. หากเกิด รอยแดง ช้ำ จากรอยเข็ม บริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำแพทย์

ติดต่อเรา

รักษาหลุมสิวด้วย Fractional co2

รักษาหลุมสิวด้วย Fractional co2

Fractional CO2 เป็นเลเซอร์ที่ทำงานด้วยการปล่อยคลื่นแสงในช่วง 10,600 นาโนเมตร ลงสู่ใต้ผิวหนังเป็นจุดเล็ก
มากๆ นับพันจุดต่อตารางเซนติเมตรด้วยระบบ Scanner ที่มีความแม่นยำสูง เมื่อแสงสัมผัสกับผิว จะเปลี่ยนเป็น
พลังงานความร้อน (Fractional Photothermolysis) ขึ้นและ ณ ตำแหน่งนั้นเอง ก็จะเกิดการทำลายเซลล์บนชั้นผิว
และมีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิว ดูเรียบเนียนขึ้น นอกจำกนี้พลังงานแสงที่ผ่านลงไป ยังกระตุ้นการ
สร้างและจัดเรียงตัวของคอลลาเจนในผิวใหม่ทั้งหมด หรือที่เรียกว่าเกิด Collagen Remodeling จึงทำให้หน้ายก
กระชับ ริ้วรอยลดลง

Fractional CO2 ใช้รักษาอะไรได้บ้าง

• กระชับรูขุมขนบนใบหน้ำ
• รักษาผิวแตกลาย
• หลุมสิว ได้ทั้งแบบ Rolling Scar , Box Scar และ Ice Pick Scar

ขั้นตอนการรักษา

1. เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดใบหน้าของลูกค้า
2. ทายาชาทั่วบริเวนที่จะทำเลเซอร์ เป็นเวลาอย่างน้อย 45 นาที
3. เริ่มทำเลเซอร์ โดยแพทย์ผู้ชำนาญ จะยิ่งทั่วหน้า 1 รอบ และ ย้ำเฉพาะจุดให้อีก 1 รอบ
4. หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะลงยาแก้อักเสบ เพื่อป้องกันการอักเสบ และ รอยแผลเป็นหลังทำ

การดูแลหลังทำเลเซอร์

1. 24 ชั่วโมงแรกหลังทำเลเซอร์ ห้ามโดนน้ำเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากแผลยังสดอยู่ ให้เริ่มล้างหน้า
ด้วย น้ำเปล่า หรือ สบู่สูตรอ่อนโยน ได้ในวันถัดไป
2. ห้ามโดนแดด ช่วงที่มีสะเก็ด เพราะอาจทำให้เกิด รอยดำหลังการรักษาได้
3. พยายามอย่า แกะ หรือ เกา กรณีเกิดการระคายเคือง ช่วงเป็นสะเก็ด แต่ให้ใช้วิธีการทาครีมบำรุงเพิ่ม
ความชุ่มชื้นให้แก่ผิว สามารถทำเพิ่มได้ตามสะดวก
4. ทาครีมกันแดด ก่อนออกจากบ้านทุกคร้ัง โดยเลือกที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และ ป้องกันได้ทั้ง UVA
และ UVB
5. งดใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม ผลัดเซลล์ผิว หรือ ไวเทนนิง จนกว่าสะเก็ดจะหมด เพื่อป้องกันอาการระคายเคือง
6. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หรือถ้าหากจำเป็นต้องแต่งหน้า ให้แต่งให้บางที่สุด เพื่อป้องกันการอุดตันของ
เครื่องสำอาง และ ก่อให้เกิดสิวอุดตัน และ อักเสบ ระหว่างการรักษา

ความเหมาะสมในการทำ

สามารถทำเลเซอร์ Fractional CO2 ได้ทุก 1 เดือน

ข้อควรระวัง

• เลเซอร์ชนิดนี้ มีโอกาสทำให้เกิดแผลเป็นชนิด รอยดำ (PIH) หลังการรักษาได้ แต่จะหายได้เองในระยะเวลา 3-6 เดือน
• เลเซอร์ตัวนี้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ตลอดการรักษา เพื่อป้องกันอาการอักเสบที่
เกิดจากการดูแลไม่ดี ซึ่งส่งผลให้เกิดรอยดำหลังการรักษาได้

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องหลุมสิว มานาน แก้ยังไงแก้ยังไงก็ไม่หายสักที แวะเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ Amitalia Clinic ได้นะ
จ๊ะ คุณหมอของเรามีความเชี่ยวชาญ พร้อมประเมิณใบหน้าของทุกท่านให้สวย เนียน ใส ไม่กังวลแน่นอน

สนใจติดต่อเรา

ให้วิตามินผิว ปลอดภัยแค่ไหน ?

ให้วิตามินผิว ปลอดภัยแค่ไหน ?

ฉีดวิตามินผิวปลอดภัยไหม? ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ดูขาวขึ้นจริงหรือ? ในปัจจุบันการฉีดวิตามินบำรุงผิวพรรณให้ดู
สดใส กำลังเป็นที่นิยมขึ้นอย่างมากทั้งคนที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน หลายคนจึง
เลือกวิธีที่เห็นผลเร็ว คือ ทำให้ผิวขาวใสด้วยการ “ฉีดวิตามินซี” ซึ่งเชื่อว่าให้ผลค่อนข้างชัดเจน สามารถเปลี่ยนความ
คล ้าเสียของผิวให้กลับมาขาวใสเรียบเนียนได้ในระยะเวลาอันสั้น

วันนี้ Amitalia clinic มีคำตอบสำหรับการฉีดวิตามินผิวนั้น มีอันตรายอะไรหรือไม่? ฉีดแล้วผิวจะดีขึ้นจริงไหม?
มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

การฉีดวิตามินผิวใส คืออะไร?

การฉีดวิตามินผิวใส คือ การฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามินต่างๆ เข้าไปในผิว วิตามินผิวใสที่นิยมทำกันใน
ปัจจุบันนั้น ตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักเป็น วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic
acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก

เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อน าไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลา
เจนมีประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพ และยังช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง
อีกทั้งยังช่วยบ ารุงผิวพรรณได้อย่างดี ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ป้องกันหวัด ป้องกันแสงแดดได้อีกด้วย

การฉีดวิตามินผิวใส เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย และสภาพผิวอย่างเร่งด่วน
• ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย
• ผู้ที่ไม่มีอยากทาครีม และต้องการผลที่ไวกว่า
• ผู้ที่มีผิวคล้ำเสีย ไม่สดใส ผิวแห้งกร้าน
• ผู้ที่ระบบภูมิต้านทำงานบกพร่อง เป็นหวัด โรคภูมิแพ้

การฉีดวิตามินผิวใส ไม่เหมาะกับใคร?

• หญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตต่ำ โรคหัวใจที่ต้องรักษาด้วยยาหลายชนิด
• ผู้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
• ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำเป็นต้น
• คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency)
• คนไข้ที่มีภาวะเหล็กเกิน เพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุได้
• คนที่มีประวัติแพ้ยา หรือวิตามินที่เป็นรูปแบบการฉีด

ซึ่งบุคคลต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อห้ามแบบชัดเจน บางเคสสามารถทำได้ ขึ้นกับภาวะต่างๆ ในแต่ละเคส

ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว

ข้อดีของการฉีดวิตามินผิว

• ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น ความชุ่มชื้นให้ผิว
• ลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวใส
• เสริมสร้างการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
• กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการหวัด โรคภูมิแพ้
• ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย
• เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว

ฉีดวิตามินผิวใสบริเวณไหนได้บ้าง?

การฉีดวิตามินผิวใส คุณหมอจะฉีดบริเวณข้อพับ เป็นการฉีดด้วยสายน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดดำ วิธีนี้เป็นการ
ให้อาหารผิวผ่านการฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ที่เข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้มากขึ้น

ฉีดวิตามินผิวใส อันตรายไหม?

การฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม? ในความเป็นจริงแล้วการฉีดวิตามินผิวใสไม่อันตราย เนื่องจากตัวยาที่ฉีด
เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และเป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมากสำหรับคนที่อยาก
ฉีดเติมวิตามินให้ผิวขาวใส ก็คือ อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการไปฉีดวิตามินผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการขึ้น
ทะเบียนกับ อย. ซึ่งการฉีดยาเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำโดยตรงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง อาการแพ้และเป็น
ผื่นได้ ซึ่งถ้ามาที่ Amitalia clinic หมดปัญหานี้แน่นอน เพราะเรามีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งตัวยาได้การ
รับรองจาก อย. ทุกตัว

ฉีดวิตามินผิว มีผลข้างเคียงไหม?

ฉีดวิตามินผิว มีผลข้างเคียงไหม? จริงๆ ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย ถ้าใช้ตัวยาที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ส่วน
ผลข้างเคียงที่เจอได้จะเป็นรอยเข็มที่เกิดจากการฉีด ซึ่งรอยเหล่านี้สามารถหายไปได้เองภายใน 1-3 วัน

หลังฉีดวิตามินผิวใส กี่วันเห็นผล?

โดยปกติแล้วหลังฉีดวิตามินผิวใส จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน หาก
ต้องการให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพในช่วงเดือนแรกควรฉีดทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นฉีดทุกๆ 2 สัปดาห์เพื่อคง
สภาพ

ซึ่งที่ Amitalia Clinic เรามีวิตามินถึง 3 สูตร เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวในแต่ละคน

Amitalia Clinic

สูตรที่ 1 “ GLOW WHIRE SKIN “ : เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งเสีย กร้าน ต้องการให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส ฟื้นฟูได้ลึกถึงระดับเซลล์ผิว

Amitalia Clinic

สูตรที่ 2 “ CYSTAL WHITE SKIN ” : เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้า อยากให้ผิวดูกระจ่างสว่างใส อมชมพู ด้วยวิตามินเข้มข้นหลายชนิด

Amitalia Clinic

สูตรที่ 3 “ PREMIUM DIAMOND WHITE SKIN (MUST TRY) ” : สูตรลับฉบับดาราเซเลป เน้นผิวออร่า สว่างใส นุ่มลื่น และช่วยฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยตัวยาพรีเมี่ยมนาเข้าจากประเทศเยอรมัน

Amitalia Clinic

ก่อนฉีดวิตามินผิว เตรียมตัวอย่างไร?

  • หากมีโรคประจาตัว ประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทาทุกครั้ง
  • ปรึกษาแพทย์ เพื่อทาการตรวจประเมินถึงปัญหาผิว และปรับสูตรวิตามินให้เหมาะกับสภาพผิวและความ

หลังฉีดวิตามินผิว ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน?

  • พยายามเล่ียงแสงแดด หากจาเป็นต้องออกแดดบ่อยๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป
  • เลี่ยงการนวดผิวบริเวณที่ทำทันที ไม่ควรเช็ดถูหรือเกาบริเวณที่ฉีด
  • หากเกิดรอยแดง ช้ำจากรอยเข็มบริเวณที่ฉีด สามารถประคบเย็น ได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • ควรดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆ เพราะจะช่วยบ ารุงผิวใสจากภายใน ดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย
  • หากอาการบวมแดงเกิดขึ้นมากกว่า 1-2 วัน ควรติดต่อแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยเบื้องต้นและรักษาตามอาการ

สนใจติดต่อเรา

ปัญหา หลุมสิว ผิวแห้งกร้าน ไม่ยืดหยุ่น ขอบตาดำคล้ำ

ปัญหา หลุมสิว ผิวแห้งกร้าน ไม่ยืดหยุ่น ขอบตาดำคล้ำ
Cytocare ช่วยดูแลคุณให้สดใส ฉ่ำวาวขึ้นได้ 👏🏻👏🏻👏🏻
จองตอนนี้เพียง 2,499 เท่านั้นค่าาาา
⋯ ⋯ ⋯ ⋯ ⋯ ⋯ ⋯

สอบถามโปร #inbox เลย !!

.
คลินิกเปิดเวลา 11.30-20.00
หยุดทุกวันพุธ.
Contact information 😍
💌Facebook : @amitaliaclinic
🥰Line@ : @amitaliaclinic
😍Ig : Amitalia Clinic
☎️Hotline : 0619656664

#amitaliaclinic#โบท็อกซ์#ร้อยไหม#ปรับสภาพผิว#ปรับรูปหน้า#ปรับหน้าเรียว#ฟิลเลอร์คาง#ฟิลเลอร์ปาก#ฟิลเลอร์ใต้ตา#ฟิลเลอร์ร่องแก้ม#ผิวใส#หน้าใสไร้สิว#ลดกรามหน้าเรียว#ลิฟหน้าปรับรูปหน้า#ลดริ้วรอย#ของดีราคาถูก#themasterอุดมสุข.