Laser คืออะไร
เลเซอร์ ( Laser ) มีชื่อเต็มว่า “ Light Amplification by the Stimulated Emission of Radiation ” ที่มีความหมายถึง
การเพิ่มปริมาณของคลื่นแสงที่ออกมาโดยการกระตุ้นเข้าไปท าให้มีการปล่อยคลื่นแสง ซึ่งการแผ่รังสีที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการ
กระตุ้นแบบร้าว โดยท าการกระตุ้นผ่าตัวกลางเลเซอร์ ( Laser medium ) ทำให้ความยาวของคลื่นที่ออกมามีขนาดที่เท่ากัน
ส่งออกมาจากตัวกลางในทิศทางเดียวกัน และมีเฟสของคลื่นแสงที่ตรงกัน
การที่เฟสของคลื่นแสงตรงกันจะทำให้แสงสามารถรวมตัวกันเกิดการขยายตัวของสัญญาณ ( Amplitude ) ส่งผลให้
ขนาดของแสงเลเซอร์มีความเข้มที่มาขึ้นหรือมีความสว่างมากกว่าแสงสว่างตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเอง ซึ่งเราสามารถบอกถึง
ความแตกต่างระหว่างแสงเลเซอร์และแสงตามธรรมชาติได้ดังนี
- แสงธรรมชาติ เป็นแสงที่สามารถเกิดขึ้นได้เอง ( Spontaneous emission ) ซึ่งแสงที่เกิดขึ้นจะมีความยาวคลื่นแสงผสมกันอยู่ ( Polychromaticity ) และแสงที่เกิดขึ้นจะสามารถเดินทางได้หลายทิศทาง ( Incoherence )นอกจากนั้นเฟสของคลื่นแสงหรือระยะของคลื่นแสงก็จะมีขนาดที่ไม่เท่ากันทั้งหมด แม้ว่าแสงดังกล่าวจะสามารถให้แสงสว่างและพลังงานได้ แต่พลังงานและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะมีความเข้มข้นที่ต่ำมาก
- แสงเลเซอร์ คือ แสงที่เกิดขึ้นจากสร้างไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งแสงเลเซอร์จะมีลักษณะพิเศษ คือ แสงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเดียวกันจะมีความยาวคลื่นที่มีความจ าเพาะเพียงค่าเดียว ( Monochromaticity ) และแสงยังมีการเดินทางที่เป็นแนวเดียวกันอย่างเป็นระเบียบและเดินทางในทิศทางที่ขนานกัน ซึ่งคลื่นของเลเซอร์จะมีเฟสที่ตรงกันดังนั้นคลื่นเลเซอร์จึงสามารถที่จะเสริมกัน ( Coherec )
การเลเซอร์มี 2 ประเภทคือ Q-switch Laser และ IPL Laser
IPL Laser คืออะไร?
‘IPL Laser’ (Intense Pulsed Light Laser) หรือ ‘เลเซอร์รักษารอยสิวให้ใบหน้าเนียนใส’ เป็นเทคโนโลยีที่นำ
พลังงานแสงความเข้มข้นสูงที่มีความยาวหลายช่วงคลื่น ลักษณะคล้ายแสงแฟลชมาใช้ในการรักษาและแก้ปัญหาผิวพรรณ
ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและรอยดำที่เกิดจากการทำร้ายของแสงแดด ลดสิว ฝ้า กระ รอยแดง รอยดำให้จางลง และรูขุมขนเรียบ
เนียนกระชับขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนังแลดูเนียนใสสุขภาพดี
IPL Laser รักษาอะไรได้บ้าง?
• กระตื้นและรอยดำ โดยเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีเข้มที่ผิดปกติให้หลุดออก
• ช่วยรักษารอยแดง รอยดำ และจุดด่างดำจากสิวให้ลดเลือนลง ทั้งยังลดการเกิดสิว
• ริ้วรอยเล็กๆ ตื้นขึ้น จากการที่เลเซอร์กระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
• รอยแดงและเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ลดเลือนลง
• กระชับรูขุมขนให้เล็กลงและใบหน้าเต่งตึงขึ้น
• รักษารอยฝ้าและกระให้ลดเลือนลง
• ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ
• ลดความหมองคล้ำและปรับสีผิวให้เรียบเนียนขึ้น
ก่อนทำ และหลังทำ IPL เตรียมตัวอย่างไร
ก่อนทำ IPL ควรเตรียมตัวอย่างไร
- เลือกสถานความงามที่มีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองหรือมีประสบการณ์เฉพาะทางในการทำ IPL
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนการทำ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ และผลข้างเคียงจากการทำอย่างละเอียด
- เข้ารับการตรวจสภาพผิว รวมทั้งแจ้งให้แพทย์ทราบถึงปัญหาผิวหนังอื่น ๆ ที่มี
- ก่อนเข้ารับการทำ IPL ประมาณ 2 สัปดาห์ ควรงดทำกิจกรรมหรือการใช้ยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดหรือการอาบแดด
- การแวกซ์ขน
- การเข้ารับการผลัดเซลล์ผิว
- การฉีดคอลลาเจน
- การใช้ยาที่ทำให้เสี่ยงมีเลือดออกผิดปกติ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน เป็นต้น
- การใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ เช่น เรตินเอ กรดไกลโคลิก เป็นต้น
หลังเข้ารับการทำ IPL ควรดูแลตัวเองดังนี้
- งดออกแดดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- ใช้น ้าเกลือท าความสะอาดแผล
- ทาครีมกันแดดทุกวัน
- ทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยน
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อความชุ่มชื้น
Q-switch คืออะไร?
Q-switch คือ เลเซอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาฝ้า กระ รอยดำ และรอยแผลเป็น โดยหลักการทำงาน Q-switch ก็
คือเป็นการใช้คลื่นแสงที่มีความหนาแน่นและความเข้มข้นสูง เพื่อทำให้เม็ดสีที่อยู่ภายใต้ชั้นผิวหนังกระจายตัวออก จากนั้นเม็ด
เลือดขาว จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติ และขับออกจากร่างกาย
การทำ Q-switch จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำ IPL เพราะมีคลื่นแสงมากกว่าถึง 8 เท่า โดยปกติแล้วการรักษาผิวหน้า
ด้วย Q-switch ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดควรรักษาต่อเนื่อง 3-6 ครั้ง และเข้ารับการรักษาทุกๆ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ก็คืออยู่กับสภาพผิว
ของผู้ที่รับการรักษาด้วย เนื่องจากบริเวณผิวที่แตกต่างกัน จะมีความตื้นลึกของเซลล์เม็ดสีไม่เท่ากัน
Q-switch ใช้รักษาอะไรได้บ้าง
- รอยดำที่เกิดจากสิว ( ใบหน้า หลัง )
- ฝ้าตื้น กระตื้น กระแดด
- ฝ้าลึก กระลึก และ ปานดำ ปานน้ำเงิน
- ทำปากชมพู
- ลบรอยสัก
- รักษารอยแผลเป็น ท่อไอเสีย น้ำเหลืองไม่ดี รอยแผลเป็นตามร่างกาย
การดูแลก่อนและหลังทำ Q-switch
ก่อนการทำ Q-switch
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำเพื่อทำความเข้าใจและลดความกังวลต่างๆ รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจ าตัวอย่างเช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง หรือมีอาการแพ้ยา จะต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำเสมอ
- ไม่ควรรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เพื่อหลีกเลี่ยงการที่เลือดจะออกนานขณะทำเลเซอร์ เช่น ยาแอสไพริน
- ห้ามโดนแดดอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ รวมทั้งงดการใช้เครื่องสำอางหรือครีมต่างๆ ในบริเวณที่จะทำ
การดูแลหลังรับบริการ Q-switch
- หลังการท า Q-switch ผู้รับการรักษาอาจรู้สึกแสบร้อนบริเวณที่ทำอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง-1 ชั่วโมง หลังจากนั้นประมาณ 4-5 วัน อาจมีการตกสะเก็ดหรือรอยดำบริเวณที่รักษา ซึ่งจะค่อยๆ หลุดหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
- โดยหลังการรักษา ผู้รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการออกแดด และโดดแดดจัด ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก โดยควรใช้ครีมกันแดด SPF 30 PA+ ที่สามารถปกป้องแสดงและมลภาวะต่างๆได้
เลเซอร์ IPL กับ Q-Switch ต่างกันยังไง ???
IPL เป็นเทคโนโลยีแสงที่มีช่วงคลื่นแสงกว้าง ถูกปล่อยออกมาหลายๆช่วงพร้อมกัน คลื่นแสงจะจับกับเม็ดสีผิวสีดำหรือสีเข้ม
แล้วสลายออก ซึ่งสามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ใช้ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง การ
รักษาด้วย IPL ไม่เสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้ และจะเห็นผลชัดเจนเมื่อใช้กับ กับใบหน้า, หน้าอก และมือ แต่จะไม่เห็นผลชัดเจนใน
การรักษาครั้งแรก ดังนั้นจึงควรรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
Q-Switch เป็นเทคโนโลยีแสงที่เป็นคลื่นเดียว หรือช่วงคลื่นแคบ มีความเข้มข้นสูง เหมาะกับการใช้สำหรับรักษาปัญหาเฉพาะ
จุด และช่วยลดการสร้างเม็ดสี โดยให้ลำแสงเลเซอร์ออกมา 2 ชนิด เลเซอร์ชนิดแรกจะทำลายเม็ดสีที่อยู่ในชั้นตื้น เช่น ฝ้า กระ
ส่วนเลเซอร์ชนิดที่ 2 จะทำลายเม็ดสีของผิวหนังชั้นล่าง เช่น กระลึก แผลเป็น รอยสัก เป็นต้น โดยไม่ทำให้ผิวด้านบนเสียหาย
ถ้าใช้ทั้ง 2 ชนิดร่วมกัน จะให้เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีผิว ท าให้ผิวหน้าขาว อมชมพู และยัง
เรียบเนียนขึ้น ครั้งแรกจะเห็นผลได้ดี 80% และควรยิงอย่างน้อย 3 ครั้งถึงจะเห็นผล หรือตามคำแนะนำของแพทย์